สุนัขเดินกะเผลกเกิดจากอะไร? เจ็บขาหน้า–ขาหลังแบบไหนอันตราย และควรพาไปหาสัตวแพทย์เมื่อไร
อาการ สุนัข เดิน กะเผลก ขาหลัง หรือ สุนัข เดิน กะเผลก ขาหน้า เป็นสัญญาณความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อ หรือระบบประสาท ซึ่งเจ้าของไม่ควรมองข้าม เพราะบางกรณีอาจเป็นอาการเล็กน้อยจากการเล่นแรงเกินไป แต่บางครั้งอาจเป็นโรคร้ายแรง เช่น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท การอักเสบติดเชื้อ หรือภาวะเสื่อมเรื้อรัง
1. อาการที่พบบ่อยเมื่อสุนัขเจ็บขาหน้า–ขาหลัง
✔️ สุนัขเจ็บขาหน้า
-
เดินลงน้ำหนักขาหน้าไม่ได้
-
เดินหัวโยกไปด้านที่ปวด
-
ขาหน้าบวม แดง หรือมีแผล
-
ลุกขึ้นยืนลำบาก โดยเฉพาะหลังนอนนาน ๆ
✔️ สุนัขเจ็บขาหลัง
-
เดินตัวเอียงหรือสะโพกยุบ
-
วิ่งกระโดดสองขาหลัง (bunny hopping)
-
เกร็งหรือไม่ยอมเหยียดขาหลัง
-
มักร้องเมื่อถูกจับบริเวณสะโพก/ต้นขา
✔️ สุนัขขาหลังอ่อนแรงเดินไม่ได้
เป็นอาการที่ต้องรีบพบสัตวแพทย์ทันที เพราะอาจเกี่ยวกับระบบประสาท เช่น
-
หมอนรองกระดูกเสื่อมกดทับไขสันหลัง (IVDD)
-
กระดูกสันหลังอักเสบ
-
โรคเส้นประสาทเสื่อมในสุนัขแก่
-
อุบัติเหตุ เช่น ตกจากที่สูง ถูกชน
2. สาเหตุสำคัญที่ทำให้สุนัขเดินกะเผลก
① บาดเจ็บจากการเล่นหรือกระโดดสูง
พบได้บ่อยที่สุด ทำให้เกิดการแพลงหรือฟกช้ำ จนเกิดอาการ สุนัขเดินกะเผลกขาหน้า หรือ ขาหลัง
② หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
อันตรายมาก — ถ้าปล่อยไว้เสี่ยงขาหลังอัมพาต
มักเริ่มจาก สุนัขขาหลังอ่อนแรงเดินไม่ได้ อย่างเฉียบพลัน
③ โรคข้อสะโพกเสื่อม (Hip Dysplasia)
พบมากในสุนัขพันธุ์ใหญ่ เช่น โกลเด้น ลาบราดอร์
ทำให้ สุนัขเจ็บขาหลัง และลุกขึ้นยาก
④ เอ็นไขว้หน้าเข่าขาด (ACL/CCL rupture)
สาเหตุยอดฮิตของ สุนัข เดิน กะเผลก ขาหลัง แบบฮวบลงทันที
⑤ การติดเชื้อในข้อ กระดูก หรือแผลถูกของมีคม
ถ้ามีบวม แดง ร้อน หรือมีหนองต้องรีบรักษา
⑥ โรคติ๊ก/พยาธิเม็ดเลือด
ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง และมีอาการกะเผลกสลับข้าง
⑦ เนื้องอกหรือความผิดปกติของกระดูก
พบได้ในสุนัขสูงอายุ ทำให้ปวดเรื้อรังและเดินผิดปกติ
3. อาการที่บอกว่า “ต้องพาสุนัขไปหาสัตวแพทย์ทันที”
-
สุนัขขาหลังอ่อนแรงเดินไม่ได้
-
ลากขาหรือขาไม่มีแรงเฉียบพลัน
-
ขาบวมผิดรูปหรือสงสัยกระดูกหัก
-
กดจุดแล้วร้องเสียงดัง
-
มีไข้ ร่วมกับเดินกะเผลก
-
ไม่กินอาหาร ซึม อาเจียนร่วมด้วย
หากพบอาการเหล่านี้การรออาจทำให้รักษายากและเสี่ยงทุพพลภาพถาวร
4. วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่เจ้าของทำได้
-
จำกัดการเคลื่อนไหว ไม่ให้วิ่ง กระโดด หรือขึ้นบันได
-
ประคบเย็น 10–15 นาที เพื่อลดบวม (หากเกิดไม่เกิน 48 ชม.)
-
ประคบอุ่น หากเป็นอาการปวดเรื้อรังจากกล้ามเนื้อ
-
ตรวจหาแผลหรือเศษของมีคม โดยระวังอย่าให้สุนัขเจ็บเพิ่ม
-
ไม่ให้ยาแก้ปวดคนเด็ดขาด เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน — อันตรายต่อสุนัขมาก
-
พาไปตรวจที่คลินิกถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 24–48 ชม.
5. การป้องกันไม่ให้สุนัขเดินกะเผลกซ้ำ
-
ควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วนเกินไป
-
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ไม่หักโหม
-
ปูพื้นไม่ให้ลื่น โดยเฉพาะบ้านที่มีกระเบื้อง
-
เสริมกลูโคซามีน/คอลลาเจนสำหรับสุนัขที่มีข้อเสื่อม
-
ตัดเล็บและตรวจฝ่าเท้าเป็นประจำ
สรุป
อาการ สุนัข เดิน กะเผลก ขาหลัง, สุนัข เดิน กะเผลก ขาหน้า, สุนัขเจ็บขาหน้า, สุนัขเจ็บขาหลัง, หรือ สุนัขขาหลังอ่อนแรงเดินไม่ได้ ล้วนบ่งบอกว่าสุนัขกำลังเจ็บปวดจากหลายสาเหตุ ทั้งโรคกระดูก บาดเจ็บ หรือระบบประสาท การสังเกตอาการให้ละเอียดและพาสุนัขไปตรวจให้ทันเวลาจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ดีที่สุด



ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น